ก่อนอื่นขอเกริ่นนำก่อนนะครับ เมื่อพี่น้องชาวเกษตรกรบ้านเรา ทำการเกษตรบางอย่างสำเร็จและผลตอบแทนได้ดีเป็นเทน้ำเทท่า แล้วเมื่อมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้นก็ย่อมเป็นแหล่ง ล้อตาล้อใจให้กับมิจฉาชีพถ้าเหตุการไม่เกิดขึ้นกับเราก่อไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าวันหนึ่ง เกิดมีโจรมาปล้นทรัพย์สินของเรา แล้วมาเจอกันพอดี สิ่งที่ผมเองจะนึกขึ้นได้ตอนนั้นคืออาวุธปืน เมื่อพุดถึงปืนท่านต้องรู้จักวิธีใช้งาน วิธีใช้ป้องกันตัว และกฏหมายต่างๆ เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน เดียวผมจะมานำเสนอในเรื่องต่อๆไปครับ
วันนี้ขอเสนอประวัติอาวุธปืนสั้นที่มีชื่อว่า Glock กันครับ พี่ๆหลายๆท่านคงเคยได้ยินกันมาแล้ว
Glock
เป็นปืนพกมาตราฐานที่ผลิตขึ้นโดย บริษัท Glock ประเทศออสเตรีย
หากกล่าวปืน Glock โดยคร่าวๆ คงเป็นการบอกกล่าวถึงโครงสร้างของปืน
โดยโครงสร้างของปืน Glockทำจากโพลิเมอร์
ส่วนที่เป็นลำเลื่อนและลำกล้องถึงจะทำด้วยเหล็กกล้า
ปืนGlock แต่ต่างจากปืนอื่นๆที่ไม่มี safe
และวัสดุที่ดูเหมือนพาสติก ความพิเศษของปืน Glock นั้น อยู่ตรงที่
ระบบการจุดชนวนที่เป็นแบบเข็มแทงขนวนชนิดพุ่งกระแทก ไม่ใช้นกสับ
และที่สำคัญ เรื่องราคาที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ซื้ออยู่มาก
แต่ปัจจุบันหลักจากรัฐบาลได้มีนโยบายจำกัดการมีอาวุธปืน
ทำให้ราคาพุ่งขึ้นสูงเอาการอยู่ทีเดียวแต่เมื่อเทียบกับปืนแบบอื่นๆที่มีขายในท้องตลาด
ปืน Glock
ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1963
โดยผู้ที่ประดิษฐ์ปืน Glock คือวิศวกรที่ทำงานอยู่ใน Deutsch-Wagram
ซึ่งไกล้กับ Vienna ชื่อนักวิศกรผู้นี้คือ Mr. Gaston Glock
โรงงานที่เขาทำอยู่นั้นเป็นโรงงานที่เกี่ยวกับการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ ที่ทำจากพาสติก และเหล็ก
เขาได้เริ่มพัฒนาและประดิษฐ์ปืน Glock ของเขาอย่างจริงจัง
ความหวังลึกๆ ของเขาคือ
"ปืนของเขานั้นเป็นปืนที่ดีที่สุด เพื่อเข้าไปช่วยงานในกองทัพได้"
และนอกจากปืนแล้วเขายังผลิต ยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่สำคัญ
สำหรับการออกสนามรบ เช่น อุปกรณ์สนาม มีด และอาวุธต่างๆ
ความมุ่งมั่นของเขาที่ทำให้ปืน Glock ขึ้นตำแหน่งผู้นำของโลกในเรื่องคุณภาพของปืน
โดยเขายึดมั่น
มาตราฐานการผลิต 3ประการคือ
1.ความเชื่อมั่นของลูกค้าความสะดวกในการใช้งาน
2.การพกพา
3.การบำรุงรักษาที่ง่าย
แกสตั้น กล็อค Gaston Glock) ชาวออสเตรียเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นประธานบริษัท Glock
เมื่อคืนวันที่ 26 กรกฎาคม 2542 กล็อกถูกทำร้ายที่เมืองลักซัมเบอร์ก
โดยคนร้ายตีหัวด้วยฆ้อนยาง หัวแตกถึงเจ็ดแผล เสียเลือดไปกว่าหนึ่งลิตร
แกสตั้นยังมีแรงสามารถชกคนร้ายที่อายุน้อยกว่าเกือบ 20 ปี
จนฟันหลุดออกจากปากอัดกำปั้นเข้าเบ้าตา ไม่มีแรงหลบหนี
เช้าวันต่อมามีคนไปพบทั้งสองคนนอนทับกันอยู่
จึงได้แจ้งตำรวจและหน่วยพยาบาลเข้าช่วยเหลือ
แกสตั้น ยังเป็นคนค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเอง มุทะลุ
และมีความเชื่อมั่นใจตัวเองสูงมาก
มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อปี 2524 ก่อนกล็อค จะผลิตปืนตอนนั้น
บริษัทยังเพียงแค่ทำเปลือกระเบิด พลั่ว
และอุปกรณ์สนามพาสติกให้กับกองทัพออสเตรีย
เป็นช่วงฤดูกองทัพออสเตรียเปลี่ยนปืนพกประจำการ
แกสตั้นไปได้ยินผู้พันท่านหนึ่งรำพึงกับเพื่อนร่วมงานว่า
ไม่มีผู้ผลิตรายใดยื่น เสนอปืนที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวตามต้องการของกองทัพได้
ได้ยินเช่นนั้นก็สวนกลับไปว่า ได้ซิบริษัทกล็อคนี่แหละทำได้
ผู้พันสองคนหันดู แกสตั้นแล้วหัวร่อใส่หน้า เท่านั้นแหละเป็นเรื่อง
เล่นดูถูกกันต่อหน้าเช่นนี้มีหรือคนอย่างแกสตั้น กล็อค จะยอม
คุณคริสโตเฟอร์ เอ็ดเวิร์ดส (Christopher Edwards)
อดีตมือปราบผู้ช่วยนายอำเภอเจพเฟอร์สัน เคาน์ตี้ มณรัฐเคนตั๊กกี้
ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันฝึกสอนของกล็อค อิงค์
สหรัฐอเมริกา หนึ่งในผู้ไกล้ชิดกับลุงกล็อกกล่าวว่า
ไม่มีใครหัวเราะเยาะแกสตั้น กล็อคได้ แล้วหลุดรอด พี่แกไม่เคยลืมและยากจะให้อภัย
กล็อกมั่นใจว่าตนสามารถออกแบบและผลิตปืน
ที่มีคุณสมบัติจากกองทัพออสเตรียต้องการได้ดีกว่าคนอื่น
ทั้งๆ เขาเองไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับปืนมาก่อน
กล็อคบอกกับเพื่อนร่วมงานว่า ก็เพราะไม่มีความรู้นี่แหละ
เป็นจุดเด่นทำให้ได้เปรียบเหนือผู้ผลิตรายอื่นๆ
เพราะจะทำให้ความคิดของเขาเปรียบเหมือนผ้าขาว
เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ไม่ผูกติดกับวิธีการ เครื่องจักร หรือแม้กระทั่งเทคโนโลยีเก่าๆ
เป็นระยะเวลาสองปีที่ แกสตั้น กล็อค ตั้งหน้าตั้งตาออกแบบปืนกระบอกแรกของบริษัทกล็อค
ลูกน้องของกล็อคเล่าให้ฟังว่า เขาจะทดสอบปืนต้นแบบด้วยตนเองแต่จะยิงด้วยมือซ้าย
เพราะเผื่อปืนระเบิดยังมีมือขวาไว้เขียนหนังสือ เขามุ่งมั่นกับโครงการนี้
เกิดอาการหงุดหงิด งุ่นง่าน ถึงขนาด เฮวก้า (Helga) ภรรยายังไม่กล้าเข้าใกล้
เมื่อปี 2526 กล็อคส่งมอบปืนชุดแรกให้กับทางกองทัพออสเตรีย
หลังจากผ่านการทดสอบได้จากผ่านการทดสอบได้สั่งซื้อกล็อค 17 เป็นจำนวน 25,000 กระบอก
กล็อคเป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจากปืนอื่นๆ มีชิ้นส่วนเพียง 34 ชิ้น
เปรียบเทียบกับปืนขนาด .45 เอซีพี ของสมิท แอนด์ เวสสัน ซึ่งมีส่วนประกอบถึง 60 ชิ้น
โครงปืนผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ ไม่เพียงมีราคาต้นทุนต่ำกว่า
แต่ยังทำให้ความรู้สึกแรงสะท้อนถอยหลังน้อยกว่าปืน
โครงโลหะ คุณจอนห์ ฟาร์นั่ม (John Farnum)
ผู้ก่อต้องสถาบันฝึกอบรมป้องกันตัว Defense Training International
ให้ข้อมูลว่า แกสตั้น กล็อค จะไม่รวยได้อย่างไร ก็เมื่อปืนมีต้นทุนประมาณ 75 เหรียญ สหรัฐฯ
ขายในราคา 500 ดอลลาร์ นิตยสารธุรกิจอเมริกันชื่อ ฟอร์เบส (Forbes)
ประมาณรายได้ของบริษัทกล็อคไว้ที่ 100 ล้านเหรียญ
สองในสามของรายได้มาจากตลาดในสหรัฐอเมริกา
ทั้งส่วนพลเรือนและราชการ ซึ่งมีกว่า 4000 หน่วยงาน
การพัฒนา
ส่วนประกอบของปืน Glock ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างเหมาะสม
การพัฒนาเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ปืนมีความแข็งแรงต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
การพัฒนาผิวปืนที่แบบเนียน การฉาบสารพิเศษที่ผิวปืน
ทำให้เพิ่มความแข็งแกร่งของปืนมากยิ่งขึ้น
ที่แน่ๆ คือ ปืน Glock ปลอดภัยจากสนิมแน่นอน
เนื่องจากวัสดุที่นำมาทำปืนนั้นเป็นพวกโพลิเมอร์
ความแม่นยำ
ปืนพกของ Glock ถูกออกแบบเพื่อการใช้งานที่แม่นยำ
ลักษะณะปืนได้รับการออกแบบ มาอย่างเรียบง่าย
แต่เน้นความถนัด ผู้ใช้งานสามารถเลือกขนาดปืนได้ตามต้องการของขนาดมือ
การออกแบบที่กลมกลืนของปืน Glock
จึงทำให้ปืน Glock ครองใจนักนิยมปืนอยู่เป็นจำนวนมาก
อุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวและเข้ากัน
ที่สำคัญน้ำหนักของปืน Glock ก็ไม่หนักมากและเบามากจนเกินความพอดี
ส่งผลให้การเล็งและบังคับทิศทางในการใช้ปืน Glock แม่นยำมากยิ่งขึ้น
Glock ได้เพิ่มความพิเศษของปืนด้วยการใช้สารโพลิเมอร์มาทำเป็นส่วนของโครงปืน
และส่วนของด้ามจับหรือ Grip นั้นก็ได้รวมเข้ากับโครงปืนหรือตัวปืนด้วยเช่นกัน
สำหรับเรื่องแรงดีดของปืนเวลายิงหรือที่เรียกว่าแรง รีคอยล์นั้น ก็ต่ำลงซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกประการหนึ่ง
ที่ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องความแม่นยำของปืน Glock ได้มากยิ่งขึ้น
ลำกล้องของปืนจะมีขนาดทีใหญ่เป็นพิเศษ
และลักษณะของ Hammer-forged จะเป็นลักษณะมเกลียวเล็กๆ ขดอยู่ในตัวปืน
แน่นอนสิ่งพิเศษเหล่านี้ย่อมเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Glock มากยิ่งขึ้น
ส่วนไกปืนนั้นถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ง่ายต่อการใช้งาน
สำหรับการหวังเป้าหมายนั้น คุณสามารถไว้วางใจ Glock ได้ทุกประเภทของเป้าหมาย
ไม่ว่าจะเป็นเป้านิ่งหรือเป้าเคลื่อนไหว Glock ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
ระบบความปลอดภัยไกปืนของ Glock
ปืน Glock มีระบบความปลอดภัยในขณะยิง
โดยใช้ระบบขอลไกปืนเป็นตัวป้องกันอันตราย
โดยจุดนี้ถือว่าเป็นจุดได้เปรียบทางการค้ามาก
สำหรับระบบรายละเอียดพอคร่าวๆ ดังต่อไปนี้
ไม่มีระบบความปลอดภัยภายนอก
ไม่มีระบบความปลอดภัยจากการง้างนก
(เมื่อต้องการขึ้นนกปืน จะไม่มีระบบความปลอดภัยในจุดนี้)
ปืนพกของ Glock ปลอดภัยในการยิงจนกระทั่งการยิงเสร็จสิ้น
ในการทำงานของปืน Glock มีอยู่ด้วยกัน 3 ระบบ อัตโนมัติ
เมื่อการทำงานของไกปืน เพื่อความปลอดภัยแล้ว
ระบบดังกล่าวจะทำงานอย่างเป็นอิสระต่อกัน
เมื่อคุณดึงไกปืนและ ยิงปืนออกไป ปืนจะทำการตั้งระบบใหม่ตั้งแต่ต้นโดยอัตโนมัติ
โดยที่คุณไม่ต้องขึ้นไกปืนอีกครั้ง สำหรับระบบการหมุนกลับของไกปืนประกอบด้วย
1 Trigger Safety
ระบบความปลอดภัยของไกปืน หรือการลั่นไกนั้นเป็นระบบที่ได้เตรียมการไว้
ในขณะที่ทำการดึงไกปืนและเลื่อนไกปืนให้เข้าที่ ระบบจะทำงาน
ด้วยน้ำหนักการทำงานที่คงที่ นับตั้งแต่กระสุนนัดแรก
จนกระทั่งกระสุนนัดสุดท้าย ปืนมีระบบป้องกันระยะตกกระทบของกระสุน
นอกจากนี้ระบบยังรับรองประสิทธิภาพการทำงานว่าปืน
จะไม่ผิดปกติหากใช้งานในอุณหภูมิระหว่าง -40 ถึง +70 องศาเซลเซียส
ระบบความปลอดภัย Trigger Safety ยังเป็นระบบที่ได้รวบรวมเอากลไกต่างๆ ไว้ในตัว
ไม่ว่าจะเป็นไกปืนซึ่งอยู่ในชุดคันโยก ระบบความปลอดภัยนี้ยังรวมไปถึง
ระบบการป้องกันขณะที่ทำการปลดไกปืน
2. Firing pin Safety
ระบบความปลอดภัยระบบนี้เป็นระบบอัตโนมัติ
ซึ่งได้รับการติดตั้งมาตั้งแต่อยู่ในโรงงาน นั่นก็คือ
การป้องกันเข็มแทงชนวนเคลื่อนไปข้างหน้า
ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในวงการของตำรวจและในวงราชการต่างๆ
ดังนั้น Glock จึงได้รับความไว้วางใจจากนักนิยมปืนหลายวงการนอกจากทางราชการแล้ว
Glock ยังไดรับความนิยมจากนักล่าสัตว์ หรือแม้แต่การนำไปใช้ในเชิงต่อสู้
โดยยึดถือในหลักการทำงานของระบบปืนว่าต้องใช้งานง่าย
ความรวดเร็วในการใช้งานสูง และเชื่อถีอได้ในความปลอดภัย
3. Drop Safety
ในเรื่องระบบที่ให้ความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานปืน Glock ที่โดดเด่นมากที่สุด
เห็นจะเป็นระบบ Drop Safety เนื่องจากเป็นสิ่งที่อันตรายมากที่สุด
สำหรับการใช้ปืนการเล็งให้ตรงเป้าหมายนั้น
เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากที่สุดสำหรับการยิงปืน
เนื่องจากแค่เสี้ยววินาที หากคุณเล็งผิดเป้าหมายแล้ว
สิ่งที่ตามมานั้นอาจอันตรายมากกว่าที่คุณคิดอยู่มาก
ดังนั้นระบบความปลอดภัยในการยิงปืน
จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สุดท้ายการเล็งเป้าหมายที่แม่นยำ
เป็นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
หลังจากกล็อก 17 ออกมาครั้งแรก จนถึงวันนี้เกือบ 20 ปี
กล็อกได้ผลิตปืนมา ถึง 20 รุ่น จากกล็อก 17 จนถึงกล็อก 36
ในปัจจุบันกล็อกใช้วิธีตั้งชื่อรุ่นเรียงลำดับตัวเลขกันไป
ไม่มีรหัสว่าตัวเลขแต่ละตัวหมายถึงอะไร
ดูไปดูมาจึงรู้ว่ากล็อกผลิตปืนออกมาเป็นชุดๆ ชุดแรกประกอบด้วย กล็อก 17, 18 และ 19 ใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ
ต่อมาในเดือนธันวาคม ปี 1990 ชุดที่สองก็ออกมา ได้แก่
กล็อก 20 และ 21 กระบอกแรกผลิตขึ้นเพื่อ "เอาใจ" เอฟบีไอ โดยเฉพาะ
เพราะใช้กระสุนขนาด 10 มม. ส่วนกระบอกหลังใช้กระสุนขนาด 11 มม.
ปืนทั้งสองรุ่นเป็นปืนขนาดเล็กกว่าคอมแพ็กนิดหน่อย
เป็นแบบซับคอมแพ็ก (subcompact) พอเอฟบีไอหันมาสนใจกระสุนขนาด .40 สมิธฯ
กล็อกก็ไม่รอช้า ออกปืนในชุดที่สามมา คือ กล็อก 22, 23 และ 24
ในขณะที่กล็อก 25 ที่ออกมาพร้อมกันในคราวนี้เป็นขนาด .380 ACP
ถัดมาในเดือนตุลาคมปี 1995 กล็อกก็เอาใจผู้ที่ต้องการปืนพกซ่อนบ้าง
ด้วยการ ผลิตปืนชุดที่สี่ ได้แก่ กล็อก 26, 27 และ 28
ทั้งสามแบบมีขนาดเท่ากัน แต่ใช้กระสุน ต่างกัน กล่าวคือ
กล็อก 26 เป็นขนาด 9 มม.พาราฯ กล็อก 27 ขนาด .40 สมิธฯ
ส่วนกล็อก 28 เป็นขนาด .380 ACP ปีต่อมามีกล็อกรุ่นที่ 5 ออกมา คือ
กล็อก 29 และ 30 เป็นขนาด 10 มม. และ 11 มม. ตามลำดับ
เมื่อบริษัท SIG ริเริ่มผลิตกระสุน ขนาด .357 ซิกขึ้น
กล็อกจึงทำปืนออกมา 3 แบบรวดในรุ่นที่หกเพื่อใช้กับกระสุนขนาดนี้ ได้แก่
กล็อก 31, 32 และ 33 ทั้งสามแบบ ใช้กระสุนขนาดเดียวกัน
แต่ต่างกันที่ความยาวลำกล้องเท่านั้น
กล็อก 31 ลำกล้องยาว 4.5 นิ้ว กล็อก 32 ลำกล้องยาว 4 นิ้ว
และกล็อก 33 เป็นแบบซับคอมแพ็ก ลำกล้อง 3.5 นิ้ว
ท้ายที่สุดเป็นปืนกล็อกในชุดสุดท้ายก็คือ
กล็อก 34, 35 และ 36 เป็นปืนขนาด 9 มม. พาราฯ, .40 สมิธฯ และ 11 มม. ตามลำดับ
เราคงสังเกตเห็นว่าในจำนวนปืน 20 แบบของกล็อก
ที่กล่าวมามีปืนที่ใช้กระสุนขนาด .380 ACP เพียง 2 แบบเท่านั้น คือ กล็อก 25 และกล็อก 28
กล็อก 25 เป็นปืนขนาดคอมแพ็กที่มีรูปร่างขนาดเดียวกับกล็อก 19, 23 และ 32
เปิดตัวครั้งแรกในนิทรรศการ IWA Show ที่ประเทศเยอรมนี
ใช้กระสุนขนาด .380 ACP และใช้ระบบโบล์วแบ็ก
เนื่องจากกล็อกพิจารณาว่า อาจมีประเทศใดประเทศหนึ่ง
ที่ห้ามพลเรือนใช้ปืนขนาดเดียวกันกับปืนที่เป็นอาวุธประจำกายทหาร
และอาจจะต้องการขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้ใช้ปืนที่เป็น
"มืออาชีพ" ที่ไม่ต้องการปืนขนาดกระสุนใหญ่โตอะไรมาก
แต่ให้ความสำคัญกับความ แม่นยำมากกว่า
ปืนเวอร์ชั่น : GLOCK 17
บริษัท : GLOCK
ประเทศ : AUSTRIA
ผู้ผลิต : MR.GASTON GLOCK
เกมส์ : BIO HAZARD GUN SURVIVAL , BIO HAZARD : CODE VERONICA , BIO HAZARD OUTBREAK
กระสุน : 9 x 19 MM PARABELLUM/LUGER/HYDRA/SPARTAL
เเม็กกาซีน : 10/17/19/31 นัด
ระบบปฏิบัติการ : DOUBLE ACTION , SAFE ACTION
ระบบการยิง : SEMI-AUTO
น้ำหนัก : 0.6 Kg - 0.9 Kg
ฟังก์ชัน : สต็อกโฮลเดอร์ , กล้อง ZOOM, ปลอกเก็บเสียง, ศูนย์เลเซอร์
ราคา: 10000-40000 กว่าบาท
ประวัติ
ปืน GLOCK 17 เป็นปืนตัวต้นเเบบ GLOCK รุ่นเเรก
เป็นปืนที่ผลิตจากประเทศ ออสเตรีย ผู้ประดิษฐ์คิดค้น คือ นักวิศวกรพลาสติก , เหล็ก
ที่ชือ MR.GASTON GLOCK
ที่เคยทำงานโรงงานเกี่ยวกับการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ
ที่ทำมาจากพลาสติก เเละเหล็ก มาก่อน
ปืน GLOCK 17 มี 3 เวอร์ชั่น คือ GLOCK 17 , GLOCK 17C , GLOCK 17L
บริษัท GLOCK เป็นบริษัทผลิตปืนพกพลาสติกโพลีเมอร์ที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ของโลก
ในบรรดาบริษัทผลิตปืนพกได้ถูกเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ
เป็นปืนที่ทำจาก พลาสติกโพลิเมอร์กับไนล่อนจึงป้องกันสนิมได้อย่างดีเยี่ยม
มีการพัฒนาของผิวปืนที่เเนบเนียน การฉาบสารพิเศษที่ผิวปืน
ทำให้เพิ่มความเเข็งเเกร่งของปืนมากยิ่งขึ้นเเต่ความทนทาน
ก็ยังคงสู้พวกสเเ ตนเลสไม่ได้อยู่ดี มีการออกแบบที่กลมกลืน
พกพาได้สะดวกไม่เกะกะกระเป๋าไม่อับ มีความสะดวกในการใช้งาน
เเละบำรุงรักษาได้ง่าย จึงทำให้ครองใจนักนิยมปืนอยู่เป็นจำนวนมาก
เเต่มันดีตรงที่ราคาถูกเเละเป็น มิตรกับลูกค้า
เป็นปืนพกที่มีทั้งความเท่มีสไตล์อันน่าพิสมัย
น้ำหนักที่เบามาก เเรงสะท้อนที่นุ่มนวลเพราะผลิตมาจากพลาสติกเป็นส่วนใหญ่
ทำให้คุมปืนง่ายเล็งได้ง่าย เเต่ความพิสดารของมันไม่หมดอยู่เเค่นี้
ก็คือปืน GLOCK จะไม่มี SAFE ในตัวปืนเลยซึ่งถ้าไม่ศึกษาปืนนี้ดีๆ
ก็อาจเปนดาบ 2 คมได้ ซึ่งเนื่องจากระบบปืนเปนระบบการยิงอิสระมากๆ
ถึงแม้จะไม่มีเซพ แต่เพราะมันมีไก 2 ชั้น
ถ้าไม่กดไกชั้นแรกก่อนก็กดชั้นที่ 2 ไม่ได้ มันจึงเหมือนกับเป็นเซพในตัวถ้าเหนี่ยวไก 2 ชั้น
เเล้วทำปืนตก GLOCK จะลั่นยิงทันทีจนหมดเเม็กซึ่งเป็นอะไรที่น่าหวาดเสียวมาก
เอาการเเต่เพราะมัน มีไก 2 ชั้นมันจึงยังปลอดภัยอยู่
เเละความพิสมัยอีกอย่างนึง คือ ระบบการจุดชนวนที่เป็นเเบบเข็มเเทงชนวนชนิดพุ่งกระเเทก
ส่วนพลังทำลายนั้นยังถือว่าต่ำ เเต่ก็เป็นปืนที่เล็งง่ายเนื่องจากน้ำหนักที่เบามาก
จนเหมือนปืนของเล่น จึงทำให้เกิดอาการสั่นของมือได้ยากมากขึ้น
เล็งก็ง่ายด้วย เเถมปืนนี้ยังอยู่ในอุณหภูมิ -40 ถึง +70 องศาเซลเซียสได้อีกด้วย
ปืนเวอร์ชั่น : GLOCK 18
บริษัท : GLOCK
ประเทศ : AUSTRIA
ผู้ผลิต : MR.GASTON GLOCK
เกมส์ : RESIDENT EVIL DEAD AIM , COUNTER STRIKE B 1-2
กระสุน : 9 x 19 MM PARABELLUM/LUGER/HYDRA/SPARTAL
เเม็กกาซีน : 10/17/19/31 นัด
ระบบปฏิบัติการ : DOUBLE ACTION , SAFE ACTION
ระบบการยิง : SEMI-AUTO , BURST FIRE , FULL AUTO
อัตราการยิงรัว : FULL AUTO 1200 RPM นัด/นาที
น้ำหนัก : 0.6 Kg - 0.9 Kg
ฟังก์ชัน : สต็อกโฮลเดอร์ , กล้อง ZOOM , ปลอกเก็บเสียง , ศูนย์เลเซอร์
ราคา : 10000-40000 กว่าบาท
ประวัติ
ปืน GLOCK 18 เป็นปืนรุ่นที่ 2 ของ GLOCK 17
GLOCK 18 มี 2 เวอร์ชั่น คือ GLOCK 18 , GLOCK 18C
คุณสมบัติ เหมือน GLOCK 17 หลายอย่าง
เเต่ความเเตกต่างคือ
มีระบบการยิงที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น เช่น BURST FIRE ร
ะบบการยิงติดต่อ 3 นัด กับระบบ FULL AUTO ยิงรัวเป็นชุด
ปืนเวอร์ชั่น : GLOCK 19
บริษัท : GLOCK
ประเทศ : AUSTRIA
ผู้ผลิต : MR.GASTON GLOCK
กระสุน : 9 x 19 MM PARABELLUM/LUGER/HYDRA/SPARTAL
เเม็กกาซีน : 10/15/17 นัด
ระบบปฏิบัติการ : DOUBLE ACTION , SAFE ACTION
ระบบการยิง : SEMI-AUTO
น้ำหนัก : 0.5 Kg - 0.7 Kg
ฟังก์ชัน : กล้อง ZOOM , ปลอกเก็บเสียง , ศูนย์เลเซอร์
ราคา : 10000-40000 กว่าบาท
คุณสมบัติเหมือน GLOCK 17 หลายอย่าง
เเต่ความเเตกต่าง คือ
น้ำหนักที่เบามากขึ้นมาหน่อย ความจุกระสุนน้อยกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย
เเรงสะท้อนที่นุ่มลึกขึ้นกว่ารุ่นก่อน คุมปืนในการยิงง่ายขึ้น
เป็นปืนที่คนไทยต่างสนใจซื้อเอามากเพราะด้วยด้ามจับที่ถนัดกว่ารุ่นก่อน
โดยด้ามจับมีรอยหยักเเยกทำให้จับได้ถนัดเเละนุ่มนวล สมดุลมากขึ้น
โครงสร้างสมดุลจับเข้ากับมือผู้ใช้ ใช้การง่าย พกพกได้สะดวก เหมาะสำหรับซ้อมยิงปืนโดยเฉพาะ
ปืนเวอร์ชั่น : GLOCK 26
บริษัท : GLOCK
ประเทศ : AUSTRIA
ผู้ผลิต : MR.GASTON GLOCK
กระสุน : 9 x 19 MM PARABELLUM/LUGER/HYDRA/SPARTAL
เเม็กกาซีน : 10/12 นัด
ระบบปฏิบัติการ : DOUBLE ACTION , SAFE ACTION
ระบบการยิง : SEMI-AUTO
น้ำหนัก : 0.5 Kg - 0.6 Kg
ราคา : 10000-40000 กว่าบาท
คุณสมบัติเหมือน GLOCK 19 หลายอย่าง
เเต่ความเเตกต่างคือ เรื่องคุมปืนยังสู้ GLOCK 19 ไม่ได้เท่าไร น้ำหนักเบากว่า GLOCK 19
เเต่มีขนาดเล็กไปหน่อย จึงไม่เหมาะสำหรับคนมือใหญ่น่ะ เเต่ขนาดพกพาเป็นเลิสกว่า GLOCK 19
บรรจุกระสุนน้อยไปหน่อยกว่ารุ่นก่อน เหมาะสำหรับไว้ใช้พกซ่อนโดยเฉพาะ
แคสเปี้ยน /Glock 9 มม.
ปืนพกขนาด 9 มม. ของกล็อก รุ่นยอดนิยมก็คือ กล็อก 19
ซึ่งจัดเป็นขนาด "คอมแพ็ค" (Compact) คือเล็กกว่าปืนทหารมาตรฐาน
แต่ไม่เล็กจิ๋วถึงขนาดพกซ่อน ยังยิงง่ายคุมง่ายลำกล้องเกือบ 4 นิ้ว
ได้ พลังงานของกระสุน 9 พาราฯ เต็มสภาพ
ถือเป็นปืนอเนกประสงค์ใช้งานได้หลาย รูปแบบ
ตั้งแต่พกซองนอกก็ไม่เล็กจนน่าเกลียด
พกในเสื้อก็ยังพอไหวไม่ใหญ่เกินติดบ้าน ติดรถ เฝ้าร้าน
ขนาดตัวพอใช้ข่มขวัญคนร้ายได้อาจไม่ต้องยิงจริงและให้ความแม่นยำสูง
ไม่แพ้ปืนลำกล้องยาว 5 นิ้วมาตรฐาน โครงขนาดกล็อก 19
จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับช่างที่คิดจะสร้างปืนกล็อกในระดับคัสตอม
จึงเป็นที่มาของปืน
วิธีถอดทำความสะอาดเหมือนกล็อก ปลดซองกระสุน
ดึงลำเลื่อนตรวจ รังเพลิงให้แน่ใจว่าไม่มีกระสุนค้าง เหนี่ยวไก เป็นการลดสปริงขับเข็มแทงชนวน
ขยับลำเลื่อนถอยหลังเล็กน้อยอย่าให้ถึงจุดที่เซียร์ จะขยับเข้าจับเข็มฯ กดสลักล็อกลำเลื่อน ลงด้านล่าง
เลื่อนชุดลำเลื่อนพร้อมลำกล้อง ออกด้านหน้า แยกลำกล้องสปริงลำเลื่อน
พร้อมแกนออกจากลำเลื่อน สำหรับทำความสะอาดทั่วไปถอดเท่านี้ประกอบกลับย้อนกับการถอด
ปืนเวอร์ชั่น : GLOCK 28
กล็อก 28 มีรูปร่างเล็กกว่ากล็อก 25 เล็กน้อยเป็นแบบซับคอมแพ็ก
ปืนของกล็อก ขนาดเดียวกันกับกล็อก 28 ก็คือ กล็อก 26, 27 และ 33
ความจริงกล็อก 28 ควรจะออกสู่ตลาดในสหรัฐฯ
พร้อมกับกล็อก 26 และ 27 ตั้งแต่กรกฎาคม ค.ศ. 1995 แล้ว
แต่ไม่รู้อย่างไรถึงออกมาทีหลังในอีก 2 ปีต่อมา
อาจ เป็นเพราะว่ากล็อกคงคิดว่าตนเองมีปืนที่ใช้กระสุนขนาดนี้อยู่แล้วคือกล็อก 25 ก็เป็นได้
จุดเด่นของกล็อกอีกจุดหนึ่งอยู่ที่ไกด์ร็อด
ซึ่งในรุ่นก่อนๆนั้นใช้ไกด์ร็อดกับรีคอยล์
สปริงแยกกันคนละชิ้น ซึ่งส่งผลให้เวลาประกอบไกด์ร็อด
เข้ากับรีคอยล์สปริงจะสร้าง ความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับเจ้าของปืนมาก
เพราะรีคอยล์สปริงของกล็อกค่อนข้าง แข็ง กล็อก 28
จึงมีการปรับปรุงตรงจุดนี้ด้วยการล็อกรีคอยล์สปริงเข้าไว้กับไกด์ร็อด
ให้เป็นชิ้นเดียวกันเลย ทำให้การถอดประกอบปืนง่ายเข้า
และที่สำคัญรีคอยล์สปริงของกล็อกเป็นสปริง 2 ตัว
แทนที่จะเป็นสปริงตัวเดียว เหมือนที่เราเห็นในปืนระบบรีคอยล์ทั่วไป
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าปืนลำกล้องสั้นๆ
จะต้องมี แรงถอยของลำเลื่อนที่แรงและสั่นกว่าปืนลำกล้องยาวๆ สปริง 2 ตัว
จึงช่วยต้านแรงนี้ได้
จุดขายของกล็อกนอกเหนือจากนวัตกรรมของโพลิเมอร์ที่นำมาใช้ปืนแล้ว
กล็อกยังเน้นระบบนิรภัย 3 แห่ง ได้แก่ ไกที่มีคันนิรภัยแรกอยู่ด้วย (Trigger Safety)
มีสมอล็อกเข็มแทงชนวนซึ่งจะยึดเข็มไว้จนกว่าจะมีเจตนาเหนี่ยวไกจริงๆ (Firing Pin Safety)
และระบบป้องกันปืนลั่นขณะทำปืนตก (Drop Safety)
และระบบนิรภัยนี้จะทำงานทันทีที่ปล่อยไกปืนหลังจากยิงไปแล้ว
GLOCK 25
ลักษณะของปืนก็เป็นกล็อกทั่วไป ดำทั้งตัว สไลด์เหลี่ยมเรียบ
โครงด้ามทำด้วยโพลิเมอร์ รูปแบบเป็นรุ่นที่สาม
รุ่นที่หนึ่งผิวโพลิเมอร์ทำกันลื่นเป็นเม็ดเล็กๆ
ซึ่งคงไม่ค่อยจะกันลื่นก็เลยออกรุ่นที่สองมีลายกันลื่นใหญ่หน่อย
เป็นรูปสี่เหลี่ยมเรียกว่า รุ่นผิวระเบิดมือ
สำหรับรุ่นที่สามก็เพิ่มร่องนิ้วที่หน้าด้าม
และร่องวางหัวแม่โป้งไว้ทั้งซ้ายและขวา
แถมท้ายด้วยรางติดอุปกรณ์ช่วยเล็งที่ด้านหน้าโครงปืน
กล็อกโมเดล 25 นี้รูปร่างเหมือนกันกับโมเดล 19 (9 มม.)
และโมเดล 23 (.40 S&W) วางไว้ด้วยกันถ้าไม่เห็นตัวเลขรุ่น
ก็จะบอกไม่ได้เลยว่าเป็นรุ่นไหน โครงปืนและชุดลั่นไกเหมือนกันหมด
ถอดสไลด์มาสลับกันก็ได้ นั่งดูอยู่เป็นนานจึงเห็นความแตกต่าง
อันนี้นอกเหนือจากลำกล้องและแม็กกาซีน
คือส่วนในของสไลด์โมเดล 25 มี การปาดเนื้อโลหะออกไปบ้าง
เมื่อเทียบกับโมเดล 19 แต่ก็ไม่มาก ชั่งน้ำหนักสไลด์ทั้งสองรุ่นก็ไม่ต่างกัน
อีกจุดหนึ่งที่มองเห็นคือ ปีกโลหะที่จับรางสไลด์คู่หลังสั้นกว่าของโมเดล 19
นิตยสาร "รวมสุดยอดปืนพก"
นิตยสาร "Gun World Thailand June 2003"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น